ผลกระทบของ PM2.5 ต่อโซลาร์เซลล์
PM2.5 (ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน) มีผลกระทบต่อโซลาร์เซลล์ในหลายด้าน ดังต่อไปนี้
1. ลดปริมาณแสงที่เข้าถึงแผงโซลาร์เซลล์
PM2.5 สามารถสะสมบนพื้นผิวของแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้เกิดชั้นฝุ่นที่ลดทอนความเข้มของแสงที่สามารถเข้าสู่เซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าลดลง
2. กระจายแสง (Scattering Effect)
ฝุ่นละอองในอากาศ เช่น PM2.5 สามารถกระจายและสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ ทำให้ปริมาณแสงที่ตรงเข้าสู่แผงโซลาร์เซลล์ลดลง ส่งผลให้การผลิตพลังงานลดลงในภาพรวม
3. การสึกหรอของวัสดุ
ฝุ่น PM2.5 ที่สะสมบนแผงโซลาร์เซลล์อาจมีสารเคมีที่เป็นกรดหรือสารกัดกร่อน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อพื้นผิวแผงในระยะยาว เช่น การกัดกร่อนกระจกหรือเคลือบป้องกัน
4. เพิ่มอุณหภูมิของแผงโซลาร์เซลล์
ฝุ่นที่สะสมอาจทำให้แผงดูดซับความร้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งอุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจลดประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์แสงอาทิตย์
โดยวิธีการแก้ไขและลดผลกระทบจาก PM2.5 นั้นสามารถทำได้โดย
1. ทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์เป็นประจำ
การล้างหรือเช็ดฝุ่นละอองบนแผงโซลาร์เซลล์อย่างสม่ำเสมอ (เช่น ทุกๆ 2-4 สัปดาห์) สามารถช่วยลดผลกระทบจากการสะสมของฝุ่นได้ โดยควรใช้
น้ำสะอาดหรือสารทำความสะอาดที่ไม่เป็นกรด และผ้านุ่มหรืออุปกรณ์ที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกแผง
2. ติดตั้งระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ (Robotic Cleaning System)
ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติที่ไม่ใช้น้ำกำลังเป็นที่นิยมในพื้นที่ที่มีปัญหาฝุ่นสูง ช่วยลดต้นทุนและแรงงานในการบำรุงรักษา.
3. เคลือบพื้นผิวกันฝุ่น (Anti-Soiling Coating)
ใช้สารเคลือบที่สามารถลดการเกาะติดของฝุ่นบนแผงโซลาร์เซลล์ ช่วยให้ฝุ่นหลุดออกได้ง่ายขึ้นจากลม ฝน หรือการทำความสะอาด.
4. ติดตั้งแผงในมุมที่เหมาะสม
การปรับมุมของแผงโซลาร์เซลล์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ฝุ่นสามารถหลุดออกได้ง่ายจากแรงโน้มถ่วง หรือการใช้อุปกรณ์หมุนแผง (Solar Tracker) อาจช่วยลดการสะสมของฝุ่นได้
5. ตรวจสอบและวางแผนการบำรุงรักษา
การตรวจสอบปริมาณฝุ่นในพื้นที่โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับ PM2.5 และวางแผนการบำรุงรักษาให้เหมาะสมกับความถี่ของการเกิดปัญหา
6. การออกแบบระบบโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ใกล้แหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ถนนที่มีการจราจรหนาแน่น หรือพื้นที่ที่เกิดฝุ่นบ่อย.
หลังจากการแก้ไขและบำรุงรักษาจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานของระบบโซลาร์เซลล์ รวมทั้งลดต้นทุนการบำรุงรักษาในระยะยาวและยืดอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์ เพราะการจัดการกับ PM2.5 อย่างเหมาะสมจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ที่มีมลภาวะทางอากาศสูงได้อย่างมีประสิทธิผล
